Skip to content Skip to footer

นิทานเซน

อยู่กับปัจจุบัน

พระชิงหลวนแห่งญี่ปุ่น เมื่อตอนที่อายุ 9 ขวบ ก็คิดที่จะออกบวชจึงไปขอบวชกับพระอาจารย์ฉือเจิ้น พระอาจารย์บอกว่า “เจ้าอายุยังน้อย คิดจะบวชทำไม?” ชิงหลวนตอบว่า “แม้ข้าพเจ้าจะอายุยังน้อย แต่พ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว และเพราะเหตุว่าข้าพเจ้าไม่รู้ว่า คนเราทำไมต้องตาย ทำไมต้องแยกจากพ่อแม่เพื่อที่จะสืบค้นหาต้นตอของสิ่ง เหล่านี้ ข้าพเจ้าจึงต้องบวช” พระอาจารย์รู้สึกชมชอบอุดมการณ์อันดีนั้น จึงพูดว่า “ดีแล้ว อาจารย์จะรับเจ้าเป็นศิษย์ แต่คืนนี้ก็ค่ำแล้ว ไว้พรุ่งนี้จะทำการบวชให้เจ้า” แต่ชิงหลวนพูดว่า “ข้าพเจ้าอายุยังน้อย ไม่ทราบว่าจะรักษาความคิดที่จะบวชจนถึงพรุ่งนี้ได้หรือ เปล่า และท่านอาจารย์ก็อายุมากแล้ว ก็ไม่สามารถจะรับรองได้ว่า พรุ่งนี้เช้าอาจารย์จะยังมีชีวิตอยู่อีกหรือเปล่า” พระอาจารย์ฟังแล้วรู้สึกปลื้มปีติยิ่งนัก บอกว่า “ถูกต้อง เจ้าพูดไม่ผิดเลย ตอนนี้จะบวชให้เจ้าทันที” ที่เมืองจีนสมัยราชวงศ์ถัง ผู้ที่จะบวชจะต้องผ่านการสอบคัดเลือกก่อน พระถังซำจั๋งตอนนั้นอายุเพียง 12 ปี สอบไม่ผ่าน รู้สึกเสียใจจนร้องไห้ ผู้คุมสอบ เจิ้งซ่านกว่อ ถามว่า “ร้องไห้ทำไม” ซำจั๋งตอบว่า “อยากสืบทอดศาสนาของพระพุทธองค์ และให้เมล็ดพันธุ์แห่งพุทธะเป็นที่เลื่องลือไปทั่วปฐพี” ผู้คุมเห็นอุดมการณ์อันสูงส่งนั้น จึงอนุญาตให้บวช ซึ่งต่อมาทั้งสองท่านก็มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

Read more

ตกปลา

มีเศรษฐีคนหนึ่ง เห็นยาจกคนหนึ่งตกปลาอยู่ริมทะเลจึงเดินเข้าไปแล้วพูดว่า เศรษฐี “เจ้าทำไมไม่คิดหาวิธีที่จะตกปลาให้ได้มากกว่านี้ เช่นว่าซื้อเรือมาสักลำ” ยาจก “ข้าจะต้องทำอย่างนั้นทำไม” เศรษฐี “ถ้าหากเจ้าซื้อเรือ เจ้าก็จะออกไปตกปลาได้ไกลกว่านี้ ที่นั่นย่อมมีปลามากกว่านี้” ยาจก “หลังจากนั้นล่ะ” เศรษฐี “หลังจากนั้นเจ้าก็นำเงินที่ได้จากการตกปลาไปซื้อเรือที่ใหญ่กว่านี้ ไปตกในที่ลึกกว่านี้ ย่อมจะได้ปลามากกว่านี้” ยาจก “หลังจากนั้นล่ะ” เศรษฐี “หลังจากนั้นเจ้าก็จะตกปลาที่นี่อย่างหมดความกังวลใดๆ” ยาจก “ตอนนี้ข้าก็ตกปลาอยู่ที่นี่อย่างไม่มีความกังวลใดอยู่แล้ว”

Read more

ผีเสื้อน้อย…

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อนานมาแล้วมีชายหนุ่มฐานะยากจนอาศัยอยู่เพียงลำพังในป่าใหญ่ เขาทำอาชีพตัดไม้และขายของป่า วันหนึ่งขณะที่เขากำลังตัดต้นไม้ มีนกกระเรียนสีขาวแสนสวยบินตกลงมาใกล้ๆ กับที่เขาอยู่ ท่ามกลางปีกสีขาวนั้นมีเลือดไหลแดงฉานออกมา ชายหนุ่มเห็นลูกธนูปักอยู่ เขาสงสารนกกระเรียนที่กำลังบาดเจ็บ หากไม่รีบช่วยนายพรานจะต้องตามมาจับมันไปแน่ ชายหนุ่มดึงลูกธนูออกมาอย่างเบามือและทำแผลให้ จนนกกระเรียนเริ่มขยับปีกได้ “เจ็บหน่อยนะ แต่เดี๋ยวเจ้าจะกลับไปบินได้เหมือนเดิม รักษาตัวด้วย” นกกระเรียนแทนคุณ: การทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทน นกกระเรียนค่อยๆ กระพือปีกจนบินได้ ก่อนที่มันจะจากไปมันส่งเสียงร้องแทนคำขอบคุณ ชายหนุ่มรู้สึกดีที่อย่างน้อยได้ช่วยชีวิตนกกระเรียนที่น่าสงสารให้ไม่ต้องกลายเป็นอาหารของนายพราน ค่ำวันนั้นชายหนุ่มเดินทางกลับมาที่กระท่อม เขารู้สึกประหลาดใจที่เห็นหญิงสาวสวยคนหนึ่งยืนรออยู่ที่บ้าน เธอถือถุงใบหนึ่งมาด้วย “กลับมาแล้วหรือคะ ฉันขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นภรรยาของคุณ ฉันอยากดูแลคุณให้ดีที่สุดค่ะ” เธอยิ้มและโค้งคำนับเขา ชายหนุ่มรู้สึกเก้อเขินและคิดว่าตัวเองต่ำต้อยไม่ดีพอที่จะได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นภรรยา “คือ…คือผมยากจนมากๆ ผมไม่น่าจะดูแลคุณได้” หญิงสาวเปิดถุงที่มีข้าวสารและอาหารอย่างอื่นอยู่เต็มให้เขาดู “ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ฉันจะช่วยดูแลคุณเอง” หญิงสาวเดินเข้าไปในครัวแล้วเริ่มทำอาหาร ทั้งสองคนได้กลายเป็นสามีภรรยากัน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชายหนุ่มออกไปทำงานได้อย่างสบายใจ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับมาบ้านเพื่อที่จะกินอาหารที่ภรรยาทำและพูดคุยกัน น่าแปลกใจที่ถุงใบนั้นจะมีข้าวสารและวัตถุดิบอย่างอื่นอยู่ข้างในเสมอ เย็นวันหนึ่งระหว่างที่กำลังกินข้าวภรรยาบอกสามีว่า “ฉันอยากให้คุณช่วยสร้างห้องทอผ้าให้หน่อย ช่วงระหว่างที่ฉันทอผ้าคุณห้ามเข้ามาเด็ดขาดนะคะ” แม้สามีเกิดความสงสัยว่าภรรยาจะทำอะไร แต่เขาก็ทำตามที่เธอร้องขอ “ฉันขอเวลา 7 วัน ขอให้คุณไปทำงานของคุณเถิด” แล้วภรรยาก็เข้าไปอยู่ในห้องนั้นโดยไม่เปิดประตูเลย เมื่อครบวันที่ 7 ภรรยาออกมาด้วยสภาพร่างกายที่ซูบผอมพร้อมผ้างามผืนหนึ่ง “ผ้าผืนนี้ถ้าคุณนำไปขายที่ตลาดน่าจะได้เงินไม่น้อย” สามีนำผ้าไปขายและกลับมาพร้อมกับเงินก้อนโต หลังจากนั้นภรรยาจะเข้าไปอยู่ในห้องทอผ้าเป็นระยะเวลานาน มีแต่เสียงเครื่องทอผ้าที่ดังตลอดเวลา…

Read more