ในวัดหนึ่ง มีหลวงพ่อกับเณรน้อยสององค์ วันหนึ่งชาวบ้านนิมนต์หลวงพ่อไปฉันเพลในบ้าน ก่อนหลวงพ่อจะไปก็สั่งเณรเป็นดิบดีว่าให้มานอนเฝ้ากุฏิ ห้ามให้ไก่ขึ้นมาขี้ใส่บนกุฏิ ถ้ากลับมาเห็นขี้ไก่ จะให้เณรกิน
พอหลวงพ่อไป เณรน้อยก็ทำอุบาย เอาน้ำตาลอ้อยมาหยอดในกุฏิแล้วแอบไปงีบหลับ พอหลวงพ่อกลับมาเห็นน้ำตาลอ้อยเป็นขี้ไก่ก็โมโหให้เณรที่ปล่อยไก่ขึ้นมาขี้บนกุฏิตนเอง จึงเรียกเณรออกมาแล้วก็บังให้กินขี้ไก่ที่อยู่บนพื้น ตอนแรกเณรไม่ยอม หลวงพ่อก็บังคับ สุดท้ายเณรยอมก้มลงไปกิน กินแล้วกินอีก
หลวงพ่อเลยถามว่า ”อร่อยมากหรอทำไมกินหมด”
เณรก็ตอบว่า”อร่อยสิ ไม่งั้นจะกินหมดหรอ”
หลวงพ่อเห็นเหลืออีกกองก็เลยลองกิน ปรากฏว่าอร่อย จึงสั่งเณรว่า วันหลังก็ปล่อยให้ไก่ขึ้นมาขี้ใส่กุฏิเลยนะ ไม่ต้องไล่ พอวันหลังหลวงพ่อก็เห็นไก่ขึ้นมาขี้บนกุฏิก็ไปกินขี้ไก่ แต่กินกองไหนๆ ก็เหม็นทุกกอง เลยไปถามเณรว่า
”ทำไมขี้ไก้เหม็นจัง ไม่หวานเหมือนวันนั้น”
เณรก็บอกว่า “จะไม่เหม็นได้ไงก็นี่นะขี้ไก่ กินวันนั้นนะน้ำตาลอ้อย”
หลวงพ่อได้ยินดังนั้นแล้วก็โมโหที่โดนเณรน้อยหลอกให้กินขี้ไก่ ก็วิ่งไล่ตีเณรน้อย.