มีกษัตริย์ชาวกรีก ครองราชสมบัติในแคว้นซูมานแห่ง ประเทศอิหร่าน พระองค์มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล อมาตย์ ราชบริพารและทวยนาครล้นหลามล้วนแล้วด้วยชนชาติกรีก
แต่พระองค์มีโรคเรื้อนเบียดเบียนพระกายอยู่ เป็นเวลานับได้หลายปี แพทย์หลวงประจําพระองค์ พยายามประกอบโอสถถวายทุกขนานแล้ว พระอาการก็หาทุเลาลงไม่ใช่แต่เท่านั้น แพทย์หลวงยัง ใช้วิธีอาคมเสกเป่า แต่หาเป็นประโยชน์ไม่ พระอาการมีแต่ ทรงกับทรุดลงเสมอ แพทย์หลวงต่างคนจนปัญญามรู้ที่จะทํา ประการไรเป็นอันหมดหวังที่จะรักษาให้หายได้ พระราชาก็ ทอดอาลัยในพระชนม์ เฝ้าแต่รอคอยเวลาอยู่ว่า วันไหนจึงจะถึง ซึ่งลิขิตพระอาหล่าผู้เป็นเจ้าทรงตราไว้ จะได้รอดพ้นจากการ ทรมานพระกายอยู่ด้วยความลําบาก
ครั้งนั้นมีหมอวิเศษชื่อดูบันเข้ามาสู่ราชสํานักกษัตริยกรีก ดูบันได้เรียนรู้คัมภีร์แพทย์ภาษาต่าง ๆ มีกรีก ละติน อิหร่าน อาหรับ ตุรกี และยิว เพราะฉะนั้น จึงเป็นผู้มีความรู้ในทาง แพทย์ศาสตร์อย่างวิเศษ พอทราบข่าวประชวรของพระราชา และแพทย์หลวงไม่สามารถรักษาให้หายได้ ก็ขออนุญาตเฝ้าและทราบทูลว่า ข้าพเจ้าทราบกิตติศัพท์ว่าพระองค์ประชวรหนัก แพทย์หลวงทั้งหลายไม่สามารถบําบัดพระโรคให้หายได้ ถ้าพระองค์ทรงกรุณา ข้าพเจ้าจะขอฉลองพระบาท ครั้นแล้วนายแพทย์ ดูบันก็ตรวจดูพระอาการ เห็นว่าพอจะรักษาหายจึงกราบทูลว่า พระอาการของพระองค์ ซึ่งเหลือสติปัญญาความสามารถของ แพทย์หลวงนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าไม่หนักนักมได้พอจะอาสาบําบัด พระโรคให้หายเป็นปกติโดยรวดเร็ว โดยมิพักต้องประกอบพระ โอสถถวายภายในหรือภายนอกประการไร
พระราชาดีพระหฤทัย ตรัสกับนายแพทย์ดูบันว่า ถ้า ท่านมีความชํานาญและรักษาเราให้หายได้อย่างว่าแล้ว จะปูน บําเหน็จให้ถึงขนาด ครั้นแล้วนายแพทย์ดูบันถวายบังคมลาออก จากที่เฝ้ากลับไปเตรียมทําไม้ตีคลีอันหนึ่ง มีด้ามกลวงยาว ภาย ในด้ามมียาบรรจุไว้ที่ตรงมือถือ ทําบางคอดเพื่อให้พิษยาแล่น ออกได้ เสร็จแล้วก็นําเข้าไปถวายกราบทูลว่า ขอเชิญเสด็จออก มาตีคลี ณ บัดนี้เถิด พระราชาปฏิบัติตาม นายแพทย์ดูบันก็ถวาย ไม้ตีคลีด้ามยาพลางทูลว่า ขอพระองค์จงทรงเล่นตีคลีสักพักใหญ่ ให้พระเสโทไหลซาบอาบไปทั้งพระกายแล้วจึงค่อยเลิก เพราะ ข้าพเจ้าได้บรรจุยาไว้ภายในด้ามไม้คลี เมื่อยาได้รับไอความร้อน จากพระหัตถ์พิษยากจะซาบซ่านเข้าไปในกาย เมื่อพระองค์
เสร็จการกีฬาแล้ว จงรีบกลับไปสรงน้ําชําระพระกายด้วยน้ําอุ่น แล้วเสด็จเข้าที่บรรทม รุ่งขึ้นพรุ่งนี้พระองค์จะหายเป็นปกติ
พระราชาก็ปฏิบัติตามคําแนะนําของนายแพทย์ดูบันทุกประการ ครั้นเมื่อตื่นจากบรรทมในเวลาเช้าวันรุ่งขึ้นหาเห็นร่องรอยโรคเรื้อน ที่เบียดเบียนพระองค์มาเป็นเวลาหลายปีนั้น รู้สึก พระองค์ราวกับว่ามิได้เคยมีโรคภัยสิ่งไรมายายี มีความสําราญ กายเป็นผาสุก ครั้นพระองค์ทรงเครื่องกษัตริย์เสร็จก็เสด็จออกขุนนางข้างหน้า ข้าเฝ้าน้อยใหญ่ถวายบังคมแล้วก็พากันชมบุญบารมี เจ้าของตนเอง นึกประหลาดมหัศจรรย์ใจชมความสามารถของ นายแพทย์ดูบัน และต่างก็แสดงความร่าเริงใจตามกัน
ขณะนั้น นายแพทย์ดูบันคลานเข้าไปกราบลงแทบฝ่าพระบาท แล้วกหมอบคอยฟังรับสั่ง พระราชาเหลือบเห็นเข้าก็ตรัสเรียกให้ขึ้นนั่งร่วมอาสน์ พลางตรัสชมเชยมากมาย ต่อหน้าเสนาข้าราชการ ในวันนั้นพระองค์ได้รับสั่งให้จัดโต๊ะ เลี้ยงกันเป็นขนานใหญ่ในพระราชวัง เป็นเกียรติยศแก่นาย แพทย์วิเศษ ตรัสเรียกให้ดูกันเข้านั่งร่วมโต๊ะเสวยด้วย
ครั้นเสร็จการเลี้ยงแล้ว ก็พระราชทานเครื่องยศให้นายแพทย์ดูบันเป็นอมาตย์ผู้ใหญ่ และพระราชทานเงินทองสิ่งของเครื่องอุปโภคเป็นอันมาก ต่อจากนั้นมานายแพทย์ดูบันก็ได้เป็นอมาตย์ที่โปรดปรานของกษัตริย์กรีก เข้านอกออกในได้เสมอ พระราชา ก็แสดงความเมตตาปรานี โปรดปรานยิ่งขึ้นทุกวัน ถึงกับบางครั้งพระองค์ทรงเข้าสวมกอดด้วยความยินดีต่อหน้าพวกข้าราชการ ด้วยทรงเห็นทรัพย์สมบัติและยศศักดิ์ที่พระราชทานเป็นรางวัลนั้น ถึงจะมากมายสักเพียงไรก็ยังไม่เพียงพอแก่ที่จะสนองคุณความดี ฉะนั้น พระองค์จึงแสดงความเมตตารักใคร่รู้คุณอยู่ทุกวัน เหล่า ขุนนางน้อยใหญ่มีความนอบน้อมยาเกรงนายแพทย์ดูบันตัวโปรด ของพระราชาอยู่ทั่วกัน
ในราชสํานักพระราชากรีกคนนั้น มีแกรนด์วิเชียร์คน หนึ่งเป็นคนอิจฉาพยาบาทอาฆาตจองเวรต่าง ๆ เมื่อเห็นพระราชา โปรดปรานพระราชทานรางวัลแก่ดูบันครั้งไร ก็นึกอิจฉาอยู่ทุกครั้งมิได้ขาด ส่วนพระราชาเล่าก็มีพระหฤทัยอ่อนแอทรง เชื่อคํายุโยงโดยง่าย นึกจะโปรดผู้ใดก็มิพักที่จะทรงดําริให้รอบคอบ พระนิสัยอันนี้เป็นปัจจัยให้บังเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น ฝ่ายแกรนด์วิเซียร์ ของพระองค์ก็ตั้งความพยาบาทมุ่งร้ายเผ่ายุยงให้ พระองค์เกลียดชังดูบัน ถ้ามีช่องกราบทูลยุยงประการไร ก็ขอเข้าเฝ้าเฉพาะพระองค์เสมอ
วันหนึ่งกราบทูลพระองค์ราชาว่า พระองค์งวยงงหลงรักใคร่โปรดปรานแพทย์ดูบัน พระราชทาน ยศศักดิ์เงินทอง แต่งตั้งให้เป็นใหญ่เป็นโต มีอํานาจว่าการโดยเด็ดขาด เท่ากับเป็นผู้สำเร็จราชการเป็นคนแทนพระองค์นั้น พระองค์มิเคยทรงระแวงบ้างหรือว่านายแพทย์ดูบันมีวิชาวิเศษ รักษาพระองค์ให้หายได้โดยง่ายดาย เมื่อกระนี้ยังจะมีข้อสงสัย ประการไรที่จะมีให้ชวนคิดว่า จะให้ใช้วิชาวิเศษปลงพระชนม์ แย่งราชสมบัติของพระองค์เสียด้วย
ในชั้นต้น พระราชามิได้ทรงเชื่อคํายุยงของแกรนด์ วิเซียร์ ตรัสเชิงพิโรธว่า ทําไมเจ้าบังอาจมาพูดเช่นนี้ วิเซียร์ จงเข้าใจนะว่าเวลานี้เจ้าพูดกับใคร ถ้าขึ้นพูดเช่นนี้ต่อไป เราจะลงโทษเจ้า แกรนด์วิเชียรเห็นพระราชากริ้วอยู่ก็ยับยั้งเสีย
ครั้นอยู่ต่อมาไม่นานนัก ก็หาช่องเพ็ดทูลได้อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้กราบทูลว่าตำแหน่งที่ข้าพเจ้าสำหรับจะคอยป้องกันมิให้เกิดเหตุเภทภัยแด่พระองค์ได้ ถ้าและเมื่อไรข้าพเจ้าเพิกเฉยมินําพาเอาใจใส่สอดส่องดูความเป็นไปในพระองค์ และถ้ามีเหตุภัยเกิดขึ้นแด่พระองค์โทษข้าพเจ้าต้องถึงตาย บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นเหตุการณ์ร้ายกาจจะเกิดแด่พระองค์ จึงได้พยายามกราบทูลครั้งหนึ่งแล้วพระองค์คาดโทษไว้ แต่ข้าพเจ้าก็ยอมสละชีวิตเลือดเนื้อเป็นราชพลี ขึ้นกราบทูลพระองค์อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้พระราชอาญาไม่พ้นเกล้า ฯ ขอมถวายชีวิตในข้อที่พยายาม กราบทูลให้พระองค์ทรงเห็นภัยอันตราย ดีกว่าที่จะต้องตาย เพราะความเพิกเฉยละเลยไม่นําพาในพระองค์ ข้อที่จะกราบทูล คราวนี้ก็เช่นเดียวกับคราวก่อน ขอพระองค์อย่าได้ทรงไว้วางพระหฤทัยนายแพทย์ดูบันให้มากนัก ถ้าพระองค์ไม่ทรงเชื่อแล้ว เห็นว่าภัยจะเกิดแต่พระองค์เป็นแม่นมั่น
แม้พระราชามีพระหฤทัยอ่อนแอ กอปรด้วยพระนิสัย เชื่อง่าย ดังที่กล่าวแล้วก็ดี แต่พระองค์ก็ยังหาเชื่อถ้อยคําแกรนด์วิเชียรของพระองค์ไม่ ดํารัสว่า เรายังไม่เห็นมีเหตุผล อันใดพอที่จะเชื่อฟังคําของท่านได้ นายแพทย์ดูบันคนนี้มีบุญคุณ อยู่กับเราอย่างไร ท่านก็ย่อมเห็นแล้ว ไฉนท่านยังจะขึ้นกล่าว ว่าเขาจะคิดคดทรยศต่อเราเล่าเห็นจะเป็นไปไม่ได้ ถ้ามีใจคิดร้ายต่อเราไซร้ เหตุไฉนจึงช่วยชีวิตเราไว้ เราหาเชื่อท่านไม่ ตั้งแต่บัดนี้ไป เราจะไม่ฟังคําของท่านในเรื่องหมอดูบันอีก ถ้าเราขึ้นนั่งและเชื่อถือถ้อยคําของท่าน เราก็จะมีลักษณะไม่แปลกอะไรกับชายสามีนางผู้นอกใจทําโทษนกแก้วของตน
ฉะนั้น พระดํารัสของพระราชากรีกตอนนี้ ทําให้แกรนด์วิเซียร์ นึกฉงนอยู่ ใครจะทราบเรื่องชายสามีกับนกแก้ว จึงได้ทูลถามว่าข้าพเจ้าใครจะทราบว่า เรื่องราวที่ชายสามีของนางภรรยา ผู้นอกใจได้ทําโทษนกแก้วเป็นอย่างไร ขอพระองค์จึงได้กรุณาเล่าให้ข้าพเจ้านั่งบ้าง พระราชาจึงเริ่มเล่าเรื่องสามีกับนกแก้ว,