ชายผู้หนึ่งมีภรรยางาม หลงรักไม่ใคร่จะออกจาก บ้านไปห่างไกลเลย ชายผู้นั้นมีนกแก้วตัวหนึ่ง ฝึกสอนให้พูด ภาษาคนได้ชัดเจน เจ้าของรักใคร่นกแก้วของตนยิ่งนัก
วันหนึ่งสามีต้องออกจากบ้านไปธุระเป็นหนทางไกลทั้งไปทั้งมาสามคืน จึงตระเตรียมสิ่งของและเสบียงอาหารสําหรับเดินทางไว้พร้อมก็เข้าไปหาภรรยาในห้อง ครั้นลาภรรยาเสร็จ แล้วก็เดินทางออกจากบ้านไป
ฝ่ายนางภรรยารูปงาม เมื่อสามีลงเรือนไปก็คบชู้ทํานอกใจสามีตลอดทั้งสามคืน พอสามีกลับบ้านนางก็ออกมาต้อนรับด้วยอาการชื่นบานมีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พลางปราศรัยกับสามีว่าตั้งแต่เธอออกจากบ้านไป ฉันเป็นทุกข์อยู่เสมอรู้สึกว่าเหว่ใจมาก นั่งนอนนับวันนับคืนคอยอยู่มิได้ลืม บัดนี้เธอก็กลับมาแล้วฉันมีความยินดีอย่างยิ่ง
ฉนมความยนดเป็นอย่างยิ่ง
สามีได้ฟังดังนั้น ก็ยิ่งเพิ่มความรักฬคร่ขึ้นอีกอันมาก ถ้อยทีปราศรัยกันด้วยความรัก ครั้นถึงเวลาราตรีสามีกับนางเข้านอนตามเคย รุ่งขึ้นสามีตื่นตั้งแต่เช้าออกมาที่กรงนกแก้ว ๆ พลอดบอกความทชู้นอกใจของนางให้นายฟังสิ้นทุกประการ สามีจึงตัดพ้อต่อว่านางด้วยประการต่าง ๆ แต่นางปฏิเสธเถียงว่า เหตุไฉนเธอจึงพาชื่อหลงเชื่อนกแก้วสัตว์เดรัจฉานไม่รู้เดียงสา ฉันหรือรักเธอดังดวงใจ ที่จะนอกใจนั้นหาเป็นไปได้ไม่
สามีได้ฟังดังนั้นก็เชื่อ ครั้นอยู่ต่อมาไม่นานต้องเดินทางออกจากบ้านไปค้างคืนที่อื่นคืนหนึ่ง นางภรรยาคิดแค้นผูกใจ พยาบาทนกแก้วอยู่ เมื่อได้ช่องดังนั้นตกเวลากลางคืนจึงใช้ให้ ทาสคนหนึ่งเอาโม่มานั่งโม่อยู่ใต้กรงนกแก้ว ให้อีกคนหนึ่ง เอาน้ําสาดลงเหนือกรงนกทําเป็นเหมือนฝนตกให้คนที่สามเอา กระจกเงาส่องเข้ากับควงเทียน ฉายแสงให้สะท้อนกลับแวบวาบอยู่ รอบ ๆ กรงนกแก้ว ทาสทั้งสามก็ทําตามคําสั่งของนางตลอดคืน นกแก้วสําคัญว่าฝนตก แต่ก็หาผู้ใดเก็บเลื่อนกรงของมันเข้าร่ม ไม่ ต้องทนตากฝนกลัวฟ้าอยู่ตลอดคืนไม่เป็นอันหลับนอน
ครั้นวันรุ่งขึ้น ชายผู้สามีกลับมา ก็ถามนกแก้วว่า ระหว่างเมื่อข้าไม่อยู่บ้าน มีเหตุการณ์สิ่งไรเกิดขึ้นบ้างหรือไม่ นกแก้วได้ยินนายถามดังนั้นจึงพลอดตอบว่า ระหว่างเมื่อท่านไม่อยู่บ้านนั้น เกิดฝนตกฟ้าแลบและคะนองเสียงดังลั่น ข้าพเจ้าต้องอยู่กลางฝนทั้งคืน ได้รับความลําบากเหลือที่จะพรรณนาได้นายผู้หญิงไม่มีความสมเพชเวทนาข้าพเจ้าเลย ปล่อยให้ต้องทน ความลําบากทั้งความหนาวความกลัวอยู่คืนยังรุ่ง
ชายผู้สามีนางรู้อยู่ดีว่าในคืนวันนั้นหามีฝนไม่ แต่เหตุ ไฉนนกแก้วจึงแสร้งลงโทษภรรยาของตนว่าไม่มีความกรุณาปรานี ปล่อยให้ตากฝนอยู่ทั้งคืน จึงมาคํานึงอยู่แต่ในใจว่า นกแก้ว ตัวนี้มิได้กล่าวความจริงแน่แล้ว เช่นครั้งนี้ก็เห็นอยู่ชัดเจนว่ามัน แกล้งกล่าวเท็จ นี่หากว่าเราใจหนักแน่น หาไม่ก็คงเกิดเหตุการณ์ ใหญ่โตเสียตั้งแต่ครั้งเมื่อมันฟ้องหาว่าภรรยาเราทํานอกใจคราว นั้นแล้ว นกตัวนี้ชั่วช้ามาก ขึ้นเลี้ยงไว้ก็จะทําให้เราผิดพ้อง หมองใจกับภรรยาเราสักครั้งหนึ่ง จักต้องสังหารมันเสียจึงจะชอบ เมื่อนึกตกลงใจเช่นนั้นกสอดมือเข้าไปจับนกแก้วออกมาจากกรง ไม่รีรอฟาดลงกับพื้น นกแก้วก็ถึงแก่ความตาย
อยู่ต่อมา ภรรยาของชายผู้นั้นลอบทําชั้นอกใจสามีอยู่ เนื่อง ๆ ครั้นสามีรู้ตระหนักแน่จึงรู้สึกว่า ตนใจเร็วหุนหัน พลันแล่นเบาความคิด ฆ่านกแก้วที่รักและซื่อสัตย์เสีย มีความ เสียใจเป็นอันมาก
พอชาวประมงเล่านิยายมาถึงเพียงนี้แล้ว จึงพูดกับ ปีศาจว่า เมื่อกษัตริย์กรีกทรงเล่านิยายเรื่องนกแก้วจบลงแล้ว จึงตรัสกับแกรนด์วิเชียร์ว่า ท่านอิจฉาดูบัน ซึ่งมิได้มุ่งร้าย
ต่อเราเลย อยู่ดีๆ ก็ยุให้ฆ่าเขาเสีย เราหาเชื่อไม่ เราจะต้องระวังตัวสะกดใจให้จงมาก หน่อยจะเป็นเช่นเดียวกับชายผู้สามีซึ่งพอกลับคิดได้สิ ได้ทําผิดเสียจนแก้ไขไม่ได้แล้ว
ฝ่ายแกรนด์วิเชียรพยายามเพ็ดทูลต่อไปว่า เรื่องนี้ขอ พระองค์จงทรงพิจารณาใคร่ครวญดูให้ถ่องแท้เถิด ซึ่งข้าพเจ้า กราบทูลเตือนพระสติทั้งนี้ หาใช่ว่าจะมีความอิจฉาริษยา นายแพทย์ดูบันประการไรมีได้ แต่หากความจริงเป็นเช่นนั้น จึงต้องกราบทูลให้ทรงทราบ เพื่อเป็นหนทางป้องกันภัยอันตราย อันจะบังเกิดแต่พระองค์ ที่พระองค์ทรงชักนิยายเรื่องนกแก้วมา เทียบเคียง ให้เห็นโทษความมีใจเร็วเบาความคิดนั้น ก็เป็น พระกรุณาอย่างยิ่ง แต่ข้อความที่ข้าพเจ้ากราบทูลนี้เป็นความจริง ขอพระองค์อย่าทรงระแวงพระทัยเลย การที่ข้าพเจ้ากราบทูล เตือนพระสติอยู่มิรู้วายฉะนี้ ก็เพราะเกรงว่าจะได้รับโทษอัน ใหญ่หลวง เช่นเดียวกับวิเซียร์ผู้หนึ่งได้รับแล้วในสมัยก่อน
กษัตริย์กรีกตรัสถามว่า วิเชียร์ผู้นั้นมีความคิดเป็นประการไร จึงต้องโทษ แกรนดวิเชียรจึงกราบทูลว่า ขอพระองค์จงทรงสดับนิยายซึ่งข้าพเจ้าจะถวาย ณ บัดนี้เิดพระเจ้าข้า