“If love, love openly”
ในวัดนิกายเซนอีกเหมือนกัน มีภิกษุอยู่หลายสิบรูปและมีนักบวชผู้หญิงที่เรียกว่า nun อยู่คนหนึ่งชื่อ เอฉุ่น รวมอยู่ด้วย. เอฉุ่นเป็นหญิงที่สวยมาก แม้จะเอาผมออกเสียแล้ว แม้จะใช้เครื่องนุ่งห่มของนักบวชที่ปอนมาก ก็ยังสวยอย่างยิ่งอยู่นั้นเอง และทำความวุ่นวายให้แก่ภิกษุทั้งหมดนั้นมาก แทบว่าจะไม่มีจิตใจที่จะสงบได้. ภิกษุองค์หนึ่งทนอยู่ไม่ได้ ก็เขียนจดหมายส่งไปถึง ขอร้องที่จะมีการพบอย่างเฉพาะตัว. เอฉุ่นก็ไม่ตอบจดหมายนั้นอย่างไร แต่พอวันรุ่งขึ้น กำลังประชุมอบรมสั่งสอนกันอยู่ ซึ่งมีชาวบ้านจำนวนมากรวมอยู่ด้วย พอสั่งสอนจบลง เอฉุ่นก็ยืนขึ้นกล่าวถึงภิกษุนั้นว่า ภิกษุที่เขียนจดหมายถึงฉันนั้น ขอให้ก้าวออกมาข้างหน้าจากหมู่ภิกษุเหล่านั้นทีเถิด
ถ้ารักฉันมากจริงๆ ก็จงมากอดฉันที่ตรงนี้.
นิทานเรื่องนี้จะสอนว่ากระไร ก็หมายความว่า การสอนการอบรมที่ตรงไปตรงมาตามแบบของนิกายเซนนั้นกล้ามาก ทำให้คนเรากล้าหาญมาก และไม่มีความลับที่จะต้องปิดใคร จะว่าอย่างไรก็ได้ สามารถที่จะเปิดเผยตนเองได้อย่างสูงสุด มีสัจจะ มีความจริง โดยไม่ถือว่ามีความลับอยู่ในโลก.
เราจะต้องเป็นผู้ที่ปฏิญญาตัวอย่างไรแล้ว จะต้องทำอย่างนั้น ไม่มีความลับที่ปกปิดไว้ จนสะดุ้งสะเทือน.