ยังมีสาวสะคราญนางหนึ่ง เป็นผู้มีความเพียบพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ฐานะตระกูลสูงส่ง เหนือกว่าผู้อื่นในทุกๆ ด้าน ซึ่งนางเองก็ทราบข้อนี้ดี แต่กลับไร้ซึ่งความสุข
แม้อยากหาใครปรับทุกข์ด้วยก็มิมีแม้สักคนเดียว ดังนั้นนางจึงไปกราบนมัสการอาจารย์เซนอู๋เต๋อ และถามว่าทำอย่างไรนางจึงจะเพิ่มพูนเสน่ห์ในตนเอง เป็นที่รักใคร่ชื่นชมของผู้อื่น
อาจารย์เซนอู๋เต๋อบอกกับนางว่า “ไม่ยาก ต่อจากนี้ไปหากสีกามีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใดก็ตาม จงเป็นไปด้วยจิตเมตตา พูดคำเซน ฟังเสียงเซน ปฏิบัติกิจของเซน มีจิตแห่งเซน เช่นนี้สีกาจะกลายเป็นผู้เปี่ยมด้วนเสน่ห์”
เมื่อหญิงสาวนางนี้ได้ฟังคำแนะนำ ก็เอ่ยถามว่า “คำเซน เป็นเช่นใดเล่าท่านอาจารย์?”
อาจารย์เซนอธิบายว่า “คำเซน คือคำพูดในเรื่องดีงาม พูดความจริง พูดอย่างอ่อนน้อม พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์”
หญิงสาวยังคงถามต่อไป “แล้วเสียงเซน คือเช่นไร?”
อาจารย์เซนอู๋เต๋อกล่าวต่อไปว่า “เสียงเซน คือการฟังเสียงทุกอย่างให้ลึกซึ้ง ทำเสียงก่นด่าให้เป็นเสียงแห่งความเมตตา ทำเสียงคำพูดให้ร้ายให้เป็นคำชื่นชม หากสีกาฟังเสียงร้องไห้ เสียงคำพูดบิดเบือน เสียงหยาบคาย โดยไม่ถือสา นั่นคือเสียงแห่งเซน”
“ถ้าเช่นนั้น กิจของเซน เล่า เป็นอย่างไร?” หญิงสาวยังคงซักต่อ
“การให้ทานคือกิจของเซน ทำสิ่งต่างๆ ด้วยความมีเมตตา ทำประโยชน์ให้สาธารณะ ล้วนเป็นกิจของเซน” อาจารย์เซนอู๋เต๋อกล่าว
จากนั้นหญิงสาวจึงถามว่า “จิตแห่งเซน คือสิ่งใด?”
อาจารย์เซนจึงกล่าวต่อไปว่า “จิตแห่งเซน คือจิตของเราท่าน จิตของปุถุชนและอริยชน จิตที่บรรจุทุกสรรพสิ่ง จิตที่โปรดสรรพสัตว์นั่นเอง”
เมื่อหญิงสาวเข้าใจทั้งหมด จึงได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตน ไม่โอ้อวดความมั่งมีต่อหน้าผู้อื่น ไม่มีจิตคิดว่าตนเองสวยสดงดงามยิ่งกว่าใคร ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ให้ความเมตตาต่อผู้อื่น
จากนั้นไม่นาน ผู้คนต่างร่ำลือกันว่า นางคือหญิงสาวที่มีเสนห์ที่สุด ผู้คนที่รายรอบต่างรักใคร่ชื่นชมนาง